หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

EXPRESSIONISM


     Expressionism (19-20 A.D.)
    ลัทธิเอกซเพรสชั่นนิสม์

            Painter          
        Edvard Munch      
    Franz Marc

   Max Beckmann


ลัทธิเอกซเพรสชั่นนิสม์ Expressionism
     ป็นศิลปะสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นปลาย ค.ศ. 19 และต้น ค.ศ. 20 จะมีแนวคิดที่แสดงออกทางด้านจิตวิทยาและสังคม เช่น แสดงถึงความรัก ความตาย ความใคร่ ความเกลียดชัง ความแหลกเหลว ความหลอกลวง และความสกปรกของสังคม โดยใช้สีที่รุนแรงทีแปรงที่หยาบกระด้างแทนความรู้สึก ศิลปินในยุคนี้ มีความชื่นชอบเทคนิคการลงสีของแวนเก๊าะท์มากเป็นพิเศษ เนื่องจากแสดงออกทางอารมณ์ได้ดี

Painter


Edvard Munch
เอ็ดวาร์ด มูงค์


 Franz Marc
ฟรันซ์ มาร์ค


Max Beckmann
เมกซ์ เบคมันน์



ภาพมาดอนน่า Madonna
         โดยเอ็ดวาร์ด มูงค์ Edvard Munch
        เป็นศิลปินชาวนอรเวย์ เป็นผู้นำและมีอิทธิพลแก่กลุ่มเอกซเพรสชันนิสม์ ภาพเปลือยมาดอนน่า ให้ความรู้สึกที่แฝงไปด้วยความลึกลับและยั่วยุ โดยที่มีฉากหลังหมุนวน ผลงานของมูงค์ได้รับการยอมรับว่ามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ประสบความสำเร็จสูงสุด ในด้านการแสดงออกของอารมณ์และการใช้สีที่เกินความจริง


ภาพกรีดร้อง The Scream
         โดยเอ็ดวาร์ด มูงค์ Edvard Munch
        ภาพกรีดร้อง ใช้เทคนิคสีน้ำมัน ผสมสีฝุ่นและสีชอล์ค เป็นภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของมูงค์ ภาพแสดงอาการกรีดร้อง หวาดผวา ระบายความทุกข์ของชายคนหนึ่ง โดยบรรยากาศ ทั้งสีและเส้นสาย ส่งเสริมให้การกรีดร้องนี้โหยหวนและรุนแรงมากขึ้น


ภาพ ลูกม้าสีเหลือง Little yellow horses
        โดยฟรันซ์ มาร์ค Franz Marc
        มาร์คเป็นคนชอบวาดรูปสัตว์โดยเฉพาะรูปม้า ชอบใช้สีเขียว สีแสด และน้ำเงิน ผลงานบางชิ้นถูกคลี่คลายจนกลายเป็นศิลปะนามธรรม ภาพลูกม้าสีเหลืองนี้แสดงออกโดยการใช้สี สีเหลืองของม้าแสดงถึงความรู้สึกของสตรีเพศ ตัดกับฉากหลังสีน้ำเงินสื่อถึงจิตวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งโดยรวมก็แปลว่าการกดขี่เพศหญิงนั่นเอง


ภาพ รูปทรงการต่อสู้ Fighting Forms
        โดยฟรันซ์ มาร์ค Franz Marc
        ศิลปินใช้รูปทรงของสีแดงเป็นจุดเด่นกำลังปะทะกับรูปทรงของสีดำ ทีแปรงและลีลาของรูปทรงให้ความรู้สึกที่เคลื่อนไหว สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภาพ ทั้งภาพเป็นภาพที่ใช้รูปทรงที่ดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร และสีสื่ออารมณ์ เป็นศิลปะนามธรรม


 ภาพ การจากไป Departure
        โดยเมกซ์ เบคมันน์ Max Beckmann
        เป็นศิลปินชาวเยอรมัน ที่พรรคนาซีมอบตำแหน่ง ศิลปินเลวทรามให้ เขาชอบวาดพิสดาร เป็นนิทานสุภาษิต บาปบุญคุณโทษ เทคนิคที่ใช้คือมักลงสีด้วยสีสดใสแล้วใช้สีเข้มตัดขอบ ภาพนี้เป็นชุดภาพสามตอน โดยให้ความสงบสุขอยู่ตรงกลาง ส่วนซ้ายและขวาเป็นภาพฝันร้าย ความเจ็บปวด ความตายของหนุ่มสาว ภาพนี้สะท้อนถึงการกดขี่ของพรรคนาซี


ภาพ คาร์นิวาล Carnival
        โดยเมกซ์ เบคมันน์ Max Beckmann
        เบคมันน์วาดภาพนี้เพื่อแสดงถึงงานเฉลิมฉลองของมวลชนที่มีความรื่นเริงเค้าโลกีย์ ใช้อิสตรีเป็นเครื่องบำเรอความสุขสนุกสนานที่หลังฉากอาจเป็นความตายและการทำลายล้าง ส่วนรวมใช้สีเขียวตัดกับสีแดงให้ความรู้สึกตัดกันอย่างรุนแรง




วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

FAUVISM PAINTING



   Fauvism Painting  (19 A.D.) 

ลัทธิโฟวิสม์


Painter 
  Henri Matisse  
  Maurice Vlaminck
  Andre Derain
  Georges Rouault

    Raoul dufy  


ลัทธิโฟวิสม์  Fauvism Painting

   Fauvism เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า สัตว์ป่า แสดงถึงลักษณะจิตรกรรมที่ใช้สีรุนแรง ดุดัน เส้นหยาบ และให้ความรู้สึกตื่นเต้น ไม่คำนึงถึงสิ่งที่ตาเห็น แต่คำนึงถึงความรู้สึกและประสบการณ์ของศิลปินโดยตรง







Henri Matiss

อังรี มาติสส์



Maurice Vlaminck 
โมรีส วลามิงค์


Andre Derain
อัง เดอแรง


Georges Rouault 
ยอร์ช รูโอลท์


raoul dufy
ราอูล ดูฟี



ภาพ ห้องสีแดง The red room
 โดยอังรี มาติสส์
   ใช้หลักการสีร้อน 70%  สีเย็น 30% ซึ่งจะมีความสดใสและร้อนแรงของสีเป็นจุดเด่น รูปทรงจะแบนไม่เหมือนจริง มาตีสส์ใช้สีเพื่อการแสดงออกที่รุนแรงดุดันตามแบบอย่างของกลุ่มนี้


ภาพเหมือนตัวเองกับเสื้อยืดลายทาง 
Self-Portrait in Striped T-shirt
   โดยอังรี มาติสส์ Henri Matisse
  มาตีสส์ใช้เส้นที่แข็ง ลงสีในลักษณะหยาบ เพื่อให้งานมีลักษณะของความดิบเถื่อน


ภาพ สระน้ำแห่งกรุงลอนดอน  
The Pool of London
  โดยอังเดร เดอแรง
  แสดงบรรยากาศที่วุ่นวายของท่าเรือ มีน้ำทะเลสีสดใสและเป็นประกาย เดอแรงมักจะใช้สีขั้นที่หนึ่ง Primary เป็นสีหลัก และรูปทรงของเรือที่เฉียงไปมาแลดูขยับเขยื้อน ฝีแปรงที่มีลักษณะรุนแรงดุดัน


ภาพ สระน้ำแห่งกรุงลอนดอน” 
Charing Cross Bridge
  โดยอังเดร เดอแรง
  ด้วยสีที่ดุดัน ดิบ และรูปทรงที่โดนคลี่คลายจนหมดสิ้น จึงมีลักษณะเหมือนสัตว์ป่าในเชิงเปรียบเทียบ


ภาพ แม่น้ำแซนต์ที่เมืองชาโตร์” 
The River Seine at Chatou
  โดย โมรีส วลามิงค์ 
เป็นภาพทิวทัศน์แม่น้ำแซนต์ที่เมืองชาโตร์ ทีแปรงที่รุนแรงในการแต้มสีของน้ำจนดูระยิบระยับ และการใช้แม่สีจึงทำให้ระยะของทัศนียภาพหายไป


ภาพพระคริสต์บนไม้กางเขน” 
Christ on the Cross
  โดย ยอร์ช รูโอลท์
  แสดงภาพของพระเยซูถูกตรึงกางเขนไว้กลางภาพ สีที่หลากหลายและรูปทรงที่หยาบๆทำให้เกิดพลังแห่งจินตนาการต่อความตายของพระเยซู ลักษณะของภาพที่ตัดเส้นสีดำ ทำให้รู้สึกเหมือนศิลปะบนบานหน้าต่างโบสถ์ประดับด้วยกระจกสี Stained Glass ผลงานของรูโอลต์มีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่ใช้สีสว่าง สดใส และตัดด้วยเส้นหนาสีดำ



ภาพกษัตริย์อาวุโส” 
The Old King
  โดย ยอร์ช รูโอลท์
เป็นภาพของกษัตริย์ผู้มีอำนาจ ซึ่งมีลักษณะใบหน้าที่เหี้ยมเกรียมเคร่งขรึม แต่ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าสัดส่วนของลำตัวนั้น ผิดปกติอยู่บ้าง แต่นั่นเป็นความตั้งใจของศิลปิน ยังคงใช้สีสด และตัดเส้นสีดำตามแบบฉบับเดิมของรูโอลท์


ภาพ สนามหญ้าข้างสนามม้า” 
The Paddock
โดย ราอูล ดูฟี Raoul dufy
เป็นจิตรกรรมที่มีการใช้สีที่สดใสมากมาย สภาพสีส่วนรวมเป็นสีเย็นของสีฟ้าและเขียว ดูฟีใช้ทัศนธาตุที่เป็นโครงสีเรียบๆ และตัดเส้นสีดำอย่างอิสระ


ภาพ เวนิส Venice
โดย ราอูล ดูฟี Raoul dufy